ที่เที่ยวแพร่ ยอดนิยม

ที่เที่ยวแพร่ ยอดนิยม

ที่เที่ยวแพร่ ยอดนิยม เมื่อพูดถึงจังหวัดทางภาคเหนือ หลายคนอาจจะนึกถึงจังหวัดชื่อดังอย่างเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก หรือลำปาง ใช่ไหม? แต่ในความเป็นจริงจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ ‘จังหวัดแพร่’ ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีทั้งความงดงามของวัฒนธรรมและศาสนา ใครที่เคยไปจะรู้ว่าวัดของจังหวัดนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก วัดแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง บางแห่งใช้ศิลปะล้านนา บางส่วนได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากจะได้โชคลาภจากการทำบุญแล้ว ยังเจริญหูเจริญตากับศิลปะอันงดงามของวัดอีกด้วย

ในขณะเดียวกันธรรมชาติของจังหวัดนี้ก็สวยงามไม่น้อยไปกว่าใครๆ ด้วยสภาพอากาศที่ดีเราจึงสามารถเห็นต้นไม้นานาชนิดและทะเลหมอกที่สวยงามในตอนเช้า รวมถึงสถานที่บางแห่งในจังหวัดแพร่ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ที่มีอากาศสะอาดที่สุดในประเทศไทยด้วย แล้วใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศแสงสีบ้าง? ไปพักผ่อนในสถานที่ธรรมชาติ แนะนำจังหวัดแพร่ บทความนี้เราถือโอกาสมาแนะนำ ‘สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดแพร่’ มาแบ่งปันกันนะครับ

ที่เที่ยวแพร่ ยอดนิยม 1. วนอุทยานแพะเมืองผี

ที่เที่ยวแพร่ ยอดนิยม แพเมืองผีเกิดขึ้นจากหลักวิทยาศาสตร์ที่ว่าน้ำกัดเซาะดินและหินจนพังทลาย ทำให้ชั้นดินมีความสูงและต่ำไม่เท่ากันและมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ นักธรณีวิทยาเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ก่อตัวขึ้นเมื่อ 150 ล้านปีก่อน สาเหตุที่ชาวบ้านตั้งชื่อว่า ‘แพเมืองผี’ ก็เพราะคำว่า ‘แพ’ แปลว่า ‘ป่าละเมาะ’ และคำว่า ‘เมืองผี’ แปลว่า ‘ความเหงาในที่เปลี่ยว’ เพราะมีตำนานและเรื่องราวของ ชาวบ้านพูดถึงเมือง ลับแลและพื้นที่ซึ่งมีความซับซ้อน สำหรับใครที่อยากสัมผัสธรรมชาตินานๆ หรือเปลี่ยนบรรยากาศ สามารถติดต่อขอห้องพักหรือกางเต้นท์ที่เราเตรียมไว้ให้พักผ่อนได้เลย

2. อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง

อุทยานแห่งชาติดอยผากลองถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยือน เนื่องจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ป่า นอกจากนี้ยังมีภูเขาและลำธารที่สวยงามอีกด้วย ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือภูเขาหินปะการังที่เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก เป็นจุดชมทิวทัศน์และบรรยากาศที่เย็นสบาย หินมหาราชเป็นบริเวณที่มีหินขนาดใหญ่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่เหมาะกับการเดินทางมาก นอกจากนี้ถ้ำเอราวัณยังทำให้เราได้เห็นหินย้อยตามธรรมชาติอีกด้วย ถ้าได้ไปเที่ยวอุทยานรับรองไม่ผิดหวังครับ

3. ถ้ำผานางคอย

ถ้ำผานางคอยมีมานานนับร้อยปี ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามด้วยการปรับปรุงและพัฒนาถ้ำด้วยการตกแต่งด้วยไฟต่างๆ ทำให้ถ้ำสวยงามยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า ‘ถ้ำผานางคอย’ เพราะมีเรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จพระนางเจ้าอรัญญานีที่ประสบอุบัติเหตุทางเรือหลังเกิดพายุลูกใหญ่ แต่ด้วยฝีมือของกัปตันเรือ ขนงเดช ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ ทำให้ทั้งพระขนงเดชและพระราชินีสามารถรอดพ้นอันตรายนี้ได้ เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งสองคนตกหลุมรักกัน แต่เป็นการฝ่าฝืนหลักการและฝ่าฝืนพระบรมราชโองการ

เป็นผลให้เธอต้องถูกลงโทษแม้ในระหว่างตั้งครรภ์ ขนงเดชจึงไปช่วยพานางไป อย่างไรก็ตาม การหลบหนีครั้งนี้ไม่ได้รอดพ้นเงื้อมมือของทหารหลวง ทหารหลวงยิงธนูใส่ขนงเดชแต่พลาดโดนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขนงเดชอุ้มเธอเข้าไปในถ้ำแห่งนี้เพื่อหลบหนี แต่เนื่องจากบาดแผลค่อนข้างหนัก อาการของเธอจึงไม่ดี จึงบอกลาองค์เดชและบอกว่าจะรออยู่ที่นี่ตลอดไป ปล่อยให้ชายคนนั้นทิ้งเธอไว้ที่นี่แล้ววิ่งหนีจากทหาร ในที่สุดเธอก็กลายเป็นหินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักอันบริสุทธิ์

4. อ่างเก็บน้ำแม่ถาง

หากใครอยากได้บรรยากาศสุดชิลล์และพร้อมจะสละชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ต้องมาที่ ‘อ่างเก็บน้ำแม่ทาง’ ที่ใครๆ ก็สามารถชมวิวภูเขาหินขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สีเขียวสูงและต่ำสลับกันได้ ประกอบกับน้ำที่ไหลช้าๆ ภายในอ่าง ทำให้จิตใจผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ภายในอ่างเก็บน้ำยังมีปลาดุกและปลานิลอีกมากมายที่ชาวบ้านเลี้ยง หากใครกำลังมองหาปลาสดๆ หรือเมนูอาหารปลาอร่อยๆ ก็มีร้านอาหารบริเวณอ่างเก็บน้ำให้เราสั่งได้เช่นกัน ส่วนใครที่ชอบชิลๆ สามารถติดต่อชาวบ้านบริเวณนั้นเพื่อล่องแพชมธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด

5. คุ้มวงศ์บุรี

คุ้มวงศ์บุรี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2440 คุ้มนี้ออกแบบด้วยไม้สักทอง เสริมกลิ่นอายยุโรป นอกจากนี้ยังมีลวดลายขนมปังขิงหรือเส้นไม้แกะสลักอยู่ด้วย ตกแต่งด้วยสีชมพูอ่อน ต้องบอกว่าเป็นอาคารที่สวยงามมากในสมัยรัชกาลที่ 5 และปัจจุบันยังคงความคลาสสิก วินเทจ และสวยงามมากเช่นเดิม ในอดีต คุ้มวงษ์ เคยเป็นเจ้าพรหมเจ้าสุนันทา วงศ์บุรี ผู้สืบเชื้อสายมาจากผู้ปกครองจังหวัดแพร่ หากใครอยากชมความงามและประวัติศาสตร์ในอดีตแนะนำให้มาที่คุ้มวงศ์บุรี บัตรราคาเพียง 30 บาท เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด

6. บ้านนาคูหา

ไม่อยากให้ทุกคนพลาดโอกาสไป “บ้านนาคูหา” เพราะเป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยทุ่งนาเขียวขจี เมื่อเดินเข้าไปจะรู้สึกเหมือนธรรมชาติโอบกอดคุณอยู่ หากคุณคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่มีเพียงอาคารสูงคุณจะรู้สึกราวกับว่าคุณได้เข้าสู่อีกมิติหนึ่ง ด้วยความงามทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ บันนาคูฮะจึงอยู่ในอันดับที่ 7 ของประเทศที่มีอากาศบริสุทธิ์ที่สุด บริเวณนี้ยังมีถ้ำที่สวยงามซึ่งคุณสามารถชมหินย้อยได้ ส่วนนาข้าวก็เดินเล่นหรือปั่นจักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์ได้

7. วัดพระธาตุสุโทน

ในด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมต้องยอมรับว่า “วัดพระธาตุสุธน” สวยงามมาก! เพราะพระครูมนตรีธรรมเมธีเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงานเอง งานศิลปะที่ใช้จะเป็นศิลปะภาคเหนือ โดยศาลาพิพิธภัณฑ์สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจหากได้สัมผัสด้วยตัวเอง นอกจากโบสถ์และวัดที่สวยงามแล้วยังมีโบราณวัตถุในวัดให้ชมอีกด้วย เช่น อาวุธโบราณ เครื่องดนตรี เครื่องเขินต่างๆ ต้องบอกว่าหาได้ยาก อยากให้ศึกษาครับ

8. วัดจอมสวรรค์

วัดจอมสวรรค์แตกต่างจากวัดอื่นๆ เนื่องจากสร้างตามศิลปะพุกามหรือพม่า อุโบสถของวัดจึงสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง สีน้ำตาลบอกเลยว่าสวยมาก มากจนกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนวัดเป็นสมบัติของชาติ ภายในโบสถ์มีเสาประดับด้วยลวดลายสีทอง ต้นไม้มากกว่า 35 ต้นมีข้อความเป็นภาษาพม่าสลักอยู่ด้วย ส่วนพระประธานนั้นอยู่ในปางเจดีย์กันตลาของประเทศเมียนมาร์ซึ่งชาวเมืองแพร่ให้ความเคารพและศรัทธาเป็นอย่างมาก หากมีโอกาสหวังว่าทุกท่านจะได้เข้าไปสวดมนต์และชมความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของวัดครับ

บทความแนะนำ

ที่เที่ยวลำพูน แบบสโลว์ไลฟ์

→  ที่เที่ยวกลางคืน บนเกาะสมุย